เมื่อวันที่ 6 ส.ค.63 นี้ มีแรงงานต่างด้าว เดินทางไปทำใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) กับโครงการการจัดทำทะเบียนประวัติและบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าว สัญญาชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา ณ ศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงราย ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงราย ถนนฝั่งหมิ่น ตำบลริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย

นายกองรบ กระทุ่มนัด ปลัดอำเภอ ศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า กรมการปกครองจัดทำทะเบียนประวัติและออกบัตรประจำตัว คนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ให้แก่แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ คือ กัมพูชา ลาว และเมียนมา กลุ่มที่ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ และการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่สิ้นสุดลง และใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) จะสิ้นสุดลง โดยศูนย์ปิดทำการมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 63 เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แต่ตอนนี้เริ่มดำเนินงานต่อ คาดว่าจะมีแรงงานราว 13,000-14,000 คนมาทำทะเบียนประวัติ ซึ่งขณะนี้ทำไปแล้วราว 1 หมื่นคน มีอายุใบอนุญาต 2 ปี ค่าทำเอกสาร 80 บาท แยกเป็นค่าทำบัตร 60 บาท ค่ารับรอง ท.ร.8/1 จำนวน 20 บาท

ทำให้ทราบว่าส่วนมากเป็นแรงงานด้านการเกษตร ปลูกชา ปลูกพืช และก่อสร้าง และยังมีนายจ้างให้ทำงานอยู่ ถือว่าเป็นข้อดีที่จังหวัดเชียงราย ยังมีงานให้แรงงานต่างด้าวเหล่านี้ได้ทำจึงยังไม่กลับไปบ้านเกิดในประเทศเพื่อนบ้าน คาดว่าจะจัดทำทะเบียนประวัติ และบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าว ได้ตามเป้าหมาย โดยทยอยทำวันละ 200 คนเพื่อลดความแออัดเว้นระยะตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามนโยบายรัฐบาล

แหล่งข่าวจากนายจ้างที่พาแรงงานต่างด้าวมาจัดทำทะเบียนประวัติ กล่าวว่า ถือว่าจังหวัดเชียงราย ยังมีงานเกษตร เช่นปลูกชา ปลูกสับประรด ก่อสร้าง ให้แรงงานต่างด้าวเหล่านี้ทำอยู่ ทำให้ไม่ต้องเลิกจ้าง แต่อยากให้ภาครัฐเร่งส่งเสริมรายได้ผู้ประกอบการ เพราะทราบว่า ร้านอาหาร รีสอร์ท โรงแรม หลายแห่ง ขณะนี้อยู่ในสภาพย่ำแย่จากการที่ไม่มีนักท่องเที่ยว หากสนับสนุนด้านเงินกู้ หรือแนวทางด้านอื่นๆ แก่นายจ้างได้ก็จะทำให้เกิดการจ้างงานอยู่ ซึ่งเดือน ก.ย.63 นี้ จะเป็นช่วงเดือนที่ยากลำบากสุดในการบริหารจัดการเพราะเป็นช่วงสิ้นงบประมาณประจำปี จึงจะประเมินรายได้กันเป็นเดือนๆไป





ขอบคุณภาพ/ข่าว 77ข่าวเด็ด

Post a Comment

ใหม่กว่า เก่ากว่า