ย้อนอดีตสูบน้ำ กทม.น้ำท่วมใหญ่ปี 54

          ปี 2554 ไทยเกิดน้ำท่วมใหญ่ที่รุนแรงที่สุด ในรอบ 70 ปี น้ำท่วมครั้งนี้เกิดความเสียหายอย่างหนักทั้งทางภาคการเกษตร อุตสาหกรรม เศรษฐกิจ และสังคม เป็นจำนวนมาก


          สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ผู้เขียนจะมาเล่าประสบการณ์ช่วยเหลือน้ำท่วมใหญ่ช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2554 ได้มีคำสั่งจากส่วนกลางให้ อปท. สำรวจเครื่องจักรกล เครื่องสูบน้ำ และส่งข้อมูลให้ส่วนกลางด่วน เพื่อให้ความช่วยเหลือพื้นที่ ถูกน้ำท่วมขังเป็นการด่วน หน่ยงงานของผู้เขียนได้ส่งข้อมูลให้ส่วนกลาง มีเครื่องสูบน้ำขนาด 6 นิ้ว 1 เครื่อง รถดับบรรทุกน้ำ 1 คัน รถกู้ชีพ 1 คัน แล้วรอคำสั่งออกช่วยเหลือ
           






























              ทั้งนี้ผู้เขียนจะเล่าประมาณคร่าวๆ นะคับเพราะว่าจะให้เขียนตั้งแต่ต้นจนจบคงยาวมากเพราะว่าไปกันหลายวันมากเกือบ 2 เดือน  พอได้รับคำสั่งให้ไปช่วยเหลือน้ำท่วม ก็ต้องจัดเตรืองอุปกรณ์และเครื่องสูบน้ำ เช็ครถที่จะใช้ในการเดินทาง เตรียมอุปกรณ์เครื่องมือเสร็จแล้ว ก็ออกเดินทางจากจังหวัดเชียงรายมุ่งหน้าไปยัง กทม. โดยหน่วยงานของผู้เขียนมีกำลังพลไป 4 นาย หัวหน้าป้องกันฯ พนง.ดบเพลิง 2 นาย และนายช่างโยธา และหน่วยงานจากอปท.อื่น 2 นาย เป็นครูฝึกดับเพลิงและ พนง. ดับเพลิง รวมเป็น 6 คน โดยรถที่ใช้เดินทางเป็นรถกู้ชีพของหน่วยงานผู้เขียน ส่วนเครื่องสูบน้ำ รถของ ปภฯ จังหวัด จะบรรทุกไปให้ พวกเราถูกนัดหมายให้ไปเจอกันที่ ปภฯ จังหวัด โดยพวกเราจะออกเดินทางช่วง 4 โมงเย็น ค่อยๆ ขับไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบไปเพราะใช้รถหลวงในการเดินทางต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยผู้เขียนเป็นคนขับบอกเลยว่าขับรถตอนกลางคืนง่วงมากๆ ครับ ขับไปถึงถนนเส้นนครสววรค์น้ำเริ่มท่วมข้างทางเห็นแม่น้ำเจ้าพะยาน้ำไหลแรงมาก พวกเราขับไปถึง ศาลากลางจังหวัดนนทบุรีต้องไปรายงานตัว ประสานงานว่าจะเอาเครื่องสูบน้ำลงตรงไหน ติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่แล้ว  ก็ลงพื้นที่ไปดูที่ตั้งเครื่องสูบน้ำ ที่ในพื้นที่ร้องขอมาทางจังหวัด พวกเราได้ไปดูแถวอำเภอบางบัวทอง ตำบลบางคูรัด ไปดูหลายๆที่ น้ำท่วมสูงมากไม่มีที่ตั้งสูบ สรุปแล้วตกลงกับเจ้าของพื้นที่ได้เป็น วัดเต็มรักสามัคคี เพราะว่าต้องสูบน้ำให้แห้งเพื่อชาวบ้านจะนำศพมาทำพิธีทางศาสนาได้ เพราะทาง อบต.ได้ทำแนวกั้นน้ำรอบๆ วัดเพื่อจะสูบน้ำออก ขับรถไปดูที่แล้วพวกเราก็หาที่พักแต่แถวนี้ไม่มีเลยเพราะว่าน้ำท่วมสูงมาก พวกเราเลยต้องกลับไปนอนที่ศาลากลางจังหวัด เพราะต้องรอเครื่องสูบน้ำด้วยเพราะมาถึงทีหลังกลับไปถึงศาลากลางจังหวัดเขาจะมีเต็นสนามกลางไว้ให้สำหรับคนที่มาช่วยเหลือจากต่างจังหวัด พอดีจังหวัดเขามีงานกาชาดด้วย มีวงดนตรีหลายวงมาแสดง พงสิทธ โปเตโต้ บลูเบลลี่ พีสะเดิดก็มาด้วย มีลิเก และมวย ร้านค้าอื่นๆอีกมากมาย คืนนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นยิงกันในงานคอนเสริตท์ด้วยวุ่นวายกันไปหมด คืนแรกก็จะนอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่เพราะเสียงนั้นละคับ ตื่นมาตอนเช้าพวกเราก็ไปรอเครื่องสูบน้ำที่ฝ่ายงานป้องกันฯ ยกเครื่องสูบน้ำลงแล้วยกใส่รถหกล้อของ อบต.บางคูรัด เพื่อขับไปลงยังวัดที่เราจะตั้งเครื่องสูบน้ำ มาถึงวัดยกเครื่องสูบลง ติดตั้งเสร็จแล้วลองสูบน้ำเสร็จแล้วก็พักเที่ยงพอดี ได้เวลากินข้าว จะต้องนั่งเรือไปกินข้าวที่ศาลาการปเรียนเพราะว่าภายในวัดน้ำท่วมสูง 2 เมตรกว่าๆ กินข้าวอิ่มแล้วก็นั่งเรือออกมาที่เครื่องสูบน้ำพวกเราจะตั้งสองเครื่อง มี 6 นิ้ว กับ 4 นิ้ว ใช้เวลา สูบน้ำ 4-5 วัน น้ำก็เริ่มแห้งก็ถือว่าเป็นที่หน้าพอใจ อีกชุดก็กำลังเดินทางมาเปลี่ยน พวกเราก็กลับหย่วยงาน กัน 4 คน อี 2 คนไม่ได้กลับเพราะไม่มีกำลังพลมาเปลี่ยนก็ต้องอยู่ตอจนกว่า จะมีคำสั่งให้กลับ ผู้เขียนกลับไปหน่วยงานก็ประมาณ 5 วัน ก็ต้องไปเปลี่ยนชุดที่มาเปลี่ยนเราต่อ เพราะเขาย้ายที่ไปสูบอีกที่หนึ่ง สถานการณืน้ำก็เริ่มดีขึ้นน้ำแห้งหลายๆ จุดแล้ว        
           

       ก็นับเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งได้มีโอกาศไปช่วยเหลือ อุทกภัยครั้งใหญ่ ครั้งนี้                      

Post a Comment

ใหม่กว่า เก่ากว่า